วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555


ตกแต่งบ้านไฮเทค

บ้านไฮเทค บ้านอัจฉริยะ อัตโนมัติหรูหราสะดวกสบาย

+-+ การตกแต่งภายในที่ไฮเทค เติมเต็มไปด้วยความอัจฉริยะในความอัตโนมัติ ออกแบบโดยทีมงาน สถาปนิก Consexto โดยมีแรงบันดาลใจจาก บ้านที่แคบ เพียง 344 ตารางเมตรเท่านั้น เมื่อบ้านแคบก็ย่อมทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ยากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องออกแบบมาพิเศษ โดยให้อุปกรณ์บางอย่าง ซ่อนเก็บได้
การออกแบบเน้นโทนสีสไตล์เรียบหรู โมเดิร์น เพื่อให้เข้ากับความเป็นอัจฉริยะที่ทันสมัย การประดับแสงสีภายในห้อง ทำให้ห้องดูอบอุ่น ทั้งนี้ ไม่เพียงแค่สวยหรูอย่างเดียว การออกแบบนี้ ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ อาคารแห่งปี ในปี 2010 อีกด้วย อย่าลืมดูคลิปช่วงท้ายนะครับ คุณจะได้เห็นความเป็นอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์
ตกแต่งห้องดูทีวี ที่เรียบหรู คุณสามารถเรียกใช้ โต๊ะ เพื่อประยุกต์ในงานต่างๆ เมื่อไหร่ก็ได้ หากไม่ใช้เมื่อไหร่ ก็สามารถเก็บเข้าที่ ทำให้ห้องแคบๆ ก็ดูกว้างได้

คลิปรายละเอียด การตกแต่งภายใน ไฮเทค ห้ามพลาดชม


ในปี 2020 จะมีการหลอมรวมเทคโนโลยี (Technological Convergence) ระหว่างเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร และเทคโนโลยีการแพร่ภาพกระจายเสียง
** เป็นการใช้เทคโนโลยีกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) ร่วมกับแผ่นทัชสกรีน (Touch Screen) ผู้ใช้สามารถสั่งงานและเข้าถึงเทคโนโลยีได้จากทุกที่ทั่วโลก โดยการใช้งานเพียงแค่จ่ายค่าบริการเสมือนการใช้งานบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างไฟฟ้า ประปา น้ำมัน โทรศัพท์ ... :)

ล็อคประตูด้วยมือถือ


ล็อคประตูด้วยมือถือ

บริษัท Apigy ได้เริ่มเปิดให้สั่งจอง Lockitron อุปกรณ์สำหรับล็อคประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจ เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนก็ปลดล็อคได้แล้ว
โปรเจค Lockitron เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 หลังจากนั้นก็พัฒนาต่อมาเรื่อยๆจนสามารถใช้ล็อคประตูแทนกุญแจได้อย่างสมบูรณ์ Lockitron รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับ Bluetooth 4.0, Wi-FI และ NFC มันใช้พลังงานจากกล่องแบตเตอรี่ที่ฝังไว้ตรงช่องไขกุญแจที่ประตู ผู้ใช้เพียงแค่นำมือถือรุ่นที่มี NFC  หรือ Bluetooth 4.0 มาแตะที่ Lockitron ก็เปิดประตูได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ (มีทั้งบน Android และ iOS) นั่นทำให้คนที่ขี้ลืมหรือชอบนอยด์ว่าล็อคประตูรึยัง สามารถสั่งล็อคประตูได้จากทุกที่บนโลกที่มีอินเตอร์เน็ต
ตัวอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับเซนเซอร์จับการเคาะซึ่งช่วยให้คุณรู้ว่ามีคนอยู่ที่หน้าประตู รวมถึงระบบแจ้งเตือนผ่าน SMS ทุกครั้งที่มีคนอื่นปลดล็อคประตู ไม่ว่าจะใช้กุญแจหรือ Lockitron ในกรณีที่คุณลืมหรือทำมือถือหาย คุณสามารถยกเลิกการสั่งงานระยะไกลได้ด้วยการเปลี่ยนรหัสผ่าน
ถ้าใครสนใจสนนราคาสั่งจองของ Lockitron อยู่ที่ 149$ หรือประมาณ 4,620 บาท โดยจะเริ่มส่งของได้ในเดือนมีนาคมปีหน้าค่ะ
**ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.projectorok.com

กระเป๋าเสื้อผ้า สั่งได้ !


กระเป๋าเสื้อผ้าที่เดินตามคุณ

ใครที่ชอบเดินทางแต่ขี้เกียจลากกระเป๋าไปโน่นไปนี้ งั้นลองเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าแล้วที่เดินตามคุณแทนสิ
นี่คือกระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่มีชื่อว่า The Hop กระเป๋าเสื้อผ้าแห่งอนาคต เพราะมันคือกระเป๋าหุ่นยนต์ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องลากกระเป๋าให้เมื่อยมือ โดยมันจะเชื่อมต่อผ่านบลูทูธกับมือถือของคุณและจะคอยเดินตามเจ้าของได้แบบอัตโนมัติ
ตัวกระเป๋าจะประกอบไปด้วยเครื่องรับสัญญาณ 3 ตัว เพื่อใช้ในการรับสัญญาณ, ระบุสัญญาณและตรวจสอบสัญญาณต่างๆที่ส่งออกมาจากมือถือของผู้ใช้ โดยจะมี microcontroller คอยแปลสัญญาณเหล่านี้และคำนวณออกมาเป็นระยะห่างระหว่างกระเป๋าและมือถือ
เจ้า microcontroller ตัวเดียวกันนี้ยังทำหน้าที่ระบบล้อตีนตะขาบที่ขับเคลื่อนโดยใช้ระบบแรงกดอากาศเพื่อให้เดินตามผู้ใช้ในระยะห่างที่คงที่ ในกรณีที่สัญญาณขาดหายจนกระเป๋าหยุดเดิน มือถือก็จะเตือนผู้ใช้ด้วยการสั่นและกระเป่าจะล็อคตัวเองทันที
นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งโปรแกรมให้กระเป่าให้ตามคนที่ต้องการได้ หรืออนุญาตให้เจ้าหน้าที่สนามบินร่วมควบคุมเพื่อนำกระเป๋าไปโหลดได้


 **ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.projectorok.com

เม้าส์ตัวนี้ ใช้ยังไงก็ไม่เมื่อย

ใครที่ใช้เม้าส์ทำงานเป็นประจำแล้วเกิดอาการเมื่อยมือบ่อยๆ ลองเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้ดูนะ
เม้าส์ตัวนี้มีชื่อว่า Massage Mouse ผลิตขึ้นโดยบริษัท Art Factory จากญี่ปุ่น คุณสมบัติของมันก็เหมือนกับชื่อ นั่นก็คือสามารถสั่นเพื่อใช้นวดมือหรือนวดร่างกายของคุณได้
มันเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย มาพร้อมกับแท่นชาร์จ USB ด้วยการออกแบบอย่างมีสไตล์ใช้งานง่ายได้ทั้งสองมือไม่ว่าจะถนัดซ้ายหรือขวา แถมยังพกพาสะดวก การควบคุมการทำงานจะใช้ระบบสัมผัสแบบเดียวกับ Magic mouse ของแอปเปิ้ลจึงไม่มีปุ่มกดมาให้กวนใจ นอกจากนี้ตรงฐานยังฝังหลอดไฟ LED ไว้เพื่อเพิ่มความสวยงามให้เรืองแสงเวลาใช้งาน
ในการใช้ฟังก์ชั่นนวดก็จะปุ่มด้านข้างให้เลือก 3 ปุ่ม คือ A, B, C ซึ่งสามารถปรับการสั่นได้ 10 ระดับ โดยใช้ปุ่ม A เป็นการเพิ่มระดับและปุ่ม C ลดระดับความแรง ส่วนปุ่ม B จะเป็นการเลือกให้นวดแบบต่อเนื่องยาวๆหรือนวดแล้วหยุดเป็นจังหวะ แต่ถ้าคุณตั้งค่าการนวดแล้วภายใน 30 วินาทีไม่มีการสัมผัสเม้าส์เพื่อใช้งานมันก็จะเปลี่ยนโหลดกลับเป็นเม้าส์ธรรมดาๆให้อัตโนมัติ ถ้าใครสนใจเม้าส์ตัวนี้ มันจะถูกนำไปจัดแสดงในงาน CES 2013 ต้นปีหน้า ส่วนราคาและวันวางจำหน่ายยังไม่มีการประกาศออกมาค่ะ
VIA Slashgear

สร้างไวท์บอร์ดมัลติทัชด้วย Wiimote

wii_whiteboard_41.jpg
สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ทำให้ซีเห็นแล้วต้องทึ่งแต่เช้าเลยค่ะ ชื่อโปรเจกต์อาจจะยาวสักหน่อยนะคะ
“Low-Cost Multi-point Interactive Whiteboards Using the Wiimote” ซีเชื่อว่า
เพื่อนๆ เห็นแล้วต้องชื่นชอบผลงานสุดยอดไอเดียชิ้นนี้แน่ๆ
wii_whiteboard_11.jpg
ไอเดียของโปรเจกต์นี้ก็คือ การใช้คุณสมบัติการทำงานของ Wiimote ที่สามารถติดตามแสง
อินฟราเรดได้ ให้มันคอยติดตามตำแหน่งของหลอด LED อินฟราเรดที่ติดบนหัวปากกา เมื่อ
ใช้ปากกาดังกล่าวขีดเขียนลงบนกระดานที่ฉายภาพหน้าจอโน้ตบุ๊กจากโปรเจกเตอร์ ตำแหน่ง
ของการเคลื่อนที่ของปากกาที่ถูกติดตามโดย Wiimote จะถูกส่งเป็นข้อมูลให้กับโน้ตบุ๊ก เพื่อ
ประมวลผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นบนหน้าจอนั่นเอง… และเนื่องจาก Wiimote จะสามารถติดตามแสง
อินฟราเรดได้ 4 จุดพร้อมกัน ดังนั้น มันจึงรองรับการทำงานร่วมกับปากกาได้มากกว่า 1 แท่ง
หรือจะเรียกว่า มันสนับสนุนการทำงานแบบมัลติทัชได้อีกด้วย อย่าเพิ่งงงนะคะ ;)
wii_whiteboard_2.jpg
wii_whiteboard_3.jpg
ในคลิปวิดีโอที่ซีนำมาฝากเพื่อนๆ Johny Choong Lee จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอนได้
อธิบายถึงโครงการของเขาอย่างละเอียด ตั้งแต่การใช้ปากกาธรรมดาถอดใส้ออกแล้วเปลี่ยน
หัวปากกาเป็นหลอด LED ที่ให้แสงอินฟราเรดพร้อมติดตั้งสวิทช์เปิดปิดไว้บนด้าม จากนั้นหัน
Wiimote ไปยังบริเวณที่ฉายภาพจากโปรเจกเตอร์ ซึ่งมีรัศมีครอบคลุม 45 องศา เมื่อติดตั้ง
ระบบพร้อมรันแอพลิเคชันที่เขาพัฒนาขึ้นมา สิ่งต่างๆ ที่เขาวาดบนภาพที่ฉายโดยโปรเจกเตอร์
ก็จะถูกติดตามโดย Wiimote ที่ต่อกับโน้ตบุ๊ก ซึ่งภาพ ตลอดจนการจรดปากกาลงบนส่วนต่างๆ
ของ Windows จะเกิดการโต้ตอบเหมือนกับว่ากำลังจิ้มอยู่บนหน้าจอแท็บเล็ตพีซีเลยค่ะ…
wii_whiteboard_5.jpg
เท่ห์จริงๆ เลย อยากให้เพื่อนๆ ดูคลิปจนจบนะคะ อธิบายเคลียร์มากๆ แถมตอนท้ายยังสาธิต
การทำงานแบบมัลติทัชให้ดูอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญมันยังมีราคาถูกกว่าอินเตอร์แอคทีฟไวท์บอร์ด
ทั่วไปอีกด้วยนะคะ


เก้าอี้แสนรู้…วิ่งตามเจ้าของได้

 smart_chair_1.jpg
ตั้งชื่อเหมือนกับว่า เจ้าเก้าอี้ที่ซีกำลังพูดถึงเป็นเจ้าลูกหมา แต่พูดอีกก็ถูกอีกค่ะ เพราะ
มันแสนรู้เหมือนลูกสุนัขจริงๆ เป็นไอเดียสิ่งประดิษฐ์น่ารักๆ แต่ถ้ามันทำได้จริงก็น่าใช้
ดีเหมือนกันว่าแล้วไปทำความรู้จักกับไอเดีย Take-A-Seat กันเลยค่ะ
 smart_chair_3.jpg
Take-A-Seat เป็นไอเดียของ Eindhoven จากสถาบัน Jelte Van Geest ที่ต้องการ
เก้าอี้อัจฉริยะไว้ใช้ในห้องสมุด เพียงแค่นำบัตรสมาชิกห้องสมุดไปสแกนที่ด้านหน้า
ของเซ็นเซอร์เก้าอี้ เพียงแค่นี้ เก้าอี้ผู้ซื่อสัตย์ก็จะวิ่งตามคุณไปทุกที่ ดูไปก็ไม่ต่าง
จากสุนัขที่คอยติดตามเรายังไงยังงั้นเลยค่ะ พอคุณหยุดมันก็หยุดรอให้นั่งรีวิวหนัง
สือที่สนใจ เมื่อคุณได้เล่มที่ต้องการแล้ว มันก็จะตามไปที่ทางออก แต่จะไม่ตามคุณ
ออกไปนอกห้องสมุดนะคะ เพราะที่พื้นตรงทางออกจะมีสติ๊กเกอร์สีแดงที่เซ็นเซอร์ที่
ด้านล่างของเก้าอี้จะตรวจจับได้ว่า คุณออกไปแล้ว  และมันจะวิ่งกลับเข้าที่ที่จอดของ
มันด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นที่ชาร์จไฟด้วยในตัว
smart_chair_2.jpg
สำหรับพนักงานห้องสมุดจะมีบัตรของตัวเองไว้จัดการเก้าอี้เหล่านี้ เช่นกรณีที่จะใช้เก้า
อี้เป็นหมู่เหล่า พนักงานสามารถสแกนบัตรให้กับเก้าอี้ทุกตัววิ่งตามเขาไป และจัดเรียง
ตำแหน่งได้เองตามที่โปรแกรมไว้ ลองดูคลิปสาธิตการทำงานข้างล่างนี้ แล้วเพื่อนๆ จะ
ต้องชอบเหมือนซีแน่ๆ เลยล่ะ