ในเครื่องโปรเจคเตอร์ปัจจุบันจะมี ช่องต่อ (projector port)
สำหรับเชื่อมต่อสัญญานรับภาพและเสียงจากเครื่องเล่นหรือจากเครื่อง
คอมพิวเตอร์ โดยผ่านทางช่องต่างๆที่พบในเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ได้แก่
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ VGA |
ช่องต่อ VGA หรือ Monitor Cable
เป็นช่องต่อที่ใช้ต่อจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป มีขา 15 ขา
เป็นชนิดที่พบมากที่สุดในเครื่องโปรเจคเตอร์ทั่วๆไป
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ component video |
ช่องต่อ Component Video หรือที่เรียกว่าช่อง RGB(red,green,blue)
หรือ BNC component แปลว่า ส่วนประกอบ
ดังนั้นช่องต่อประเภทนี้จึงมีหลายช่องประกอบกัน
ช่องประเภทนี้ให้ความคมชัดสูงระดับดีวีดี และคมชัดกว่าช่องต่อแบบ video และ
S-Video
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ HDMI |
ช่องต่อ HDMI เป็นช่องต่อสัญญาณความละเอียดสูง (high-definition)
ช่องต่อสัญญาณชนิดนี้กำลังเป็นมาตราฐานสำหรับโปรเจคเตอร์ที่ใช้เพื่อดูหนัง
ดูภาพยนตร์ รวมถึงอุปกรณ์บันเทิงอื่นๆในบ้าน port HDMI มี 2 แบบ 1. แบบ 19
ขา ใช้สำหรับภาพที่ความละเอียดน้อยกว่า 1080i 2.แบบ 29 ขา
ใช้สำหรับความละเอียดมากกว่า 1080i
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ s-video |
ช่องต่อ S-Video หรือ S-VHS หรือ Y/C ช่องต่อสัญญาณภาพ
เหมาะกับการต่อสัญญาณจากโทรทัศน์ธรรมดาหรือเครื่องเล่นดีวีดีทั่วไป
ช่องต่อแบบนี้ให้ความคมชัดสูงกว่าช่อง Video และ composite video
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ composite video |
ช่องต่อ Composite Video หรือ Phono Audio/Video
เป็นแบบที่ให้คุณภาพภาพต่ำที่สุด โดยทั่วไปใช้ต่อกับเครื่องสเตอริโอ
ช่องสีเหลืองเป็นสัญญาณภาพ (video) ช่องสีแดงเป็นสัญญาณเสียงฝั่วขวา
และสีขาวเป็นสัญญาณเสียงฝั่งซ้าย (audio)
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ DVI |
ช่องต่อ DVI (Digital Video Interface) เป็นช่องที่เชื่อมจากเครื่องเล่นที่เป็นดิจิตัลไปสู่เครื่องฉายที่เป็นดิจิตัล
|
ช่องต่อโปรเจคเตอร์ แบบ scart |
ช่องต่อ Scart
เป็นช่องต่อเชื่อมสัญญาณดิจิตัลจากจานดาวเทียมหรือจากเคเบิล
ช่องต่อแบบนี้ต้องผ่าน adaptor ก่อนเปลี่ยนเป็นสัญญาณ composite หรือ
s-video
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นช่องต่อที่เราสามารถพบได้ในเครื่องโปรเจค
เตอร์(projector port) ซึ่งเป็นมาตรฐาน
โดยโปรเจคเตอร์หนึ่งเครื่องอาจไม่พบช่องต่อทั้งหมดขึ้นกับรุ่นและยี่ห้อของ
เครื่องโปรเจคเตอร์ ปัจจุบันช่องต่อแบบ DVI เป็นช่องต่อที่คุณภาพดีที่สุด
แต่ส่วนใหญ่เรามักพบช่องต่อแบบ VGA
เนื่องจากเป็นช่องต่อทั่วไปของเครื่องคอมพิวเตอร์
แต่สำหรับการใช้โปรเจคเตอร์เพื่อการดูหนัง ชมภาพยนตร์(home treater
projector) ควรใช้ช่องต่อแบบ HDMI ซึ่งจะให้ภาพและเสียงที่ดีในสายเดียว
นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีโปรเจคเตอร์ที่ใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
(wireless projector) ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียเราจะนำมาเสนอในโอกาสต่อๆไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น